9 จุดสำคัญควรเช็ครถก่อนเดินทางไกล มีอะไรบ้างที่ไม่ควรมองข้าม

ก่อนที่จะออกเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล แน่นอนว่าการตรวจเช็ครถให้แน่ใจว่ารถของคุณอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการเดินทางถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนรวมถึงหลีกเลี่ยงสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่อาจทำให้ลำบากต่อการเดินทางของคุณเอง วันนี้ EZY FIT ขออาสาพาทุกคนไปดูกับจุดสำคัญที่ควรเช็ครถก่อนเดินทางไกลมีอะไรบ้าง

9 จุดสำคัญที่ควรเช็ครถก่อนเดินทางไกล มีอะไรบ้าง

หากเป็นการเดินทางในระยะทางใกล้ๆ คุณสามารถที่จะทำการตรวจสอบเช็คเบื้องต้น อย่างเช่น การตรวจเช็คเครื่องยนต์, ปริมาณน้ำมัน, ลมยาง ได้ด้วยตัวเอง แต่ในกรณีที่เดินทางไกลหรือต้องใช้รถเป็นระยะเวลานาน นอกจากการเช็ครถเบื้องต้นแล้ว EZY FIT ได้รวบรวม 9 จุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งบางจุดอาจต้องให้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาดูแล โดยมีรายละเอียดที่ต้องรู้ดังนี้

1. ยางรถยนต์

ล้อและยางรถยนต์ เป็นจุดแรกที่ควรเช็ครถก่อนเดินทางไกล มีความสำคัญอย่างมากต่อการใช้รถและการเดินทาง เนื่องจากในหลายๆ ครั้ง จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนมักที่จะมีสาเหตุมาจากยางรถยนต์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นก่อนที่จะออกเดินทางจะต้องทำการเช็ครถให้ดีก่อนว่ายางรถยนต์อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ หากพบว่ายางรถยนต์มีดอกยางไม่พอ, มีรอยแตก หรือใช้งานเกินอายุ 5 ปี แนะนำว่าควรเปลี่ยนยางรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง

2. แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ คือ หัวใจหลักของการสตาร์ทเครื่องยนต์ หากไม่อยากเจอปัญหารถดับ สตาร์ตไม่ติด ในระหว่างการเดินทาง แนะนำว่าก่อนที่จะออกเดินทางควรตรวจเช็คความพร้อมของแบตเตอรี่รถยนต์ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเช็คระดับน้ำกลั่น, ตรวจความแน่นของขั้วแบต, ตรวจฉนวนหุ้มของสาย และหากสามารถทำการตรวจระดับพลังงานของแบตได้จะยิ่งดีทีเดียว
 

3. ช่วงล่าง

การตรวจเช็คช่วงล่างของรถ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากขับลงถนนจริง หากพวงมาลัยมีองศาไม่ตรง หรือในระหว่างขับได้ยินเสียงแปลกๆ ควรนำเอารถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คทันที และนอกจากจุดต่างๆ เหล่านี้แล้ว อาจมีบางจุดที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง เช่น ลูกหมาก ลูกปืนล้อ แร็คพวงมาลัย ดังนั้นการหมั่นนำรถเข้าศูนย์เพื่อทำการตรวจเช็ค จึงเป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยที่สุด

4. ระบบเบรก

เพื่อให้ระบบเบรกของรถยนต์อยู่ในสภาพที่ดีและสมบูรณ์ ผู้ขับขี่ควรที่จะทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกตามกำหนดอย่างเคร่งครัด และควรให้ช่างทำการตรวจสอบความหนาของผ้าเบรก เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

5. ไฟส่องสว่าง

การเช็คระบบไฟเป็นสิ่งที่สามารถตรวจเช็คเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า, ไฟท้าย, ไฟตัดหมอก, ไฟเลี้ยว และที่สำคัญไฟฉุกเฉิน โดยวิธีเช็คให้สังเกตจากระบบไฟส่องสว่างรอบว่า มีความสว่างที่ชัดเจนหรือไม่ หากพบว่ามีไฟดวงไหนมีปัญหา ควรทำการเปลี่ยนหลอดไฟทันที หรือถ้าไม่ชัวร์ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญไล่เช็คให้ทั้งระบบก็ได้เช่นกัน

6. หม้อน้ำ และระบบหล่อเย็น

ระบบระบายความร้อน เป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่จะต้องไม่มองข้าม เนื่องจากในระหว่างที่ระบบเครื่องยนต์มีการทำงานจะทำให้เกิดความร้อนสะสมที่ค่อนข้างมาก หากระบบระบายความร้อนทำงานไม่เต็มที่จะทำให้เกิดปัญหากับเครื่องยนต์ในระหว่างการขับขี่ อย่างอาการเครื่องยนต์น็อกได้

7. น้ำมันเครื่องยนต์

ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรตรวจสอบปริมาณของน้ำมันเครื่องให้พอเหมาะสำหรับการเดินทาง โดยสามารถทำการตรวจสอบได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง และหากเป็นการเดินทางไกลแนะนำว่าจะต้องมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถเอาไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อในกรณีที่ปริมาณน้ำมันเครื่องลดลงกว่าปกติ ก็สามารถนำมาเติมเพื่อทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปได้

8. อุปกรณ์เครื่องมือ

อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ อาทิเช่น ยางอะไหล่, แม่แรง, เครื่องมือถอดล้อ, ที่เติมลมฉุกเฉิน, สายพ่วงแบต, สายลากรถ, ไฟฉาย ฯลฯ ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดรถเอาไว้อยู่เสมอ เนื่องจากบนท้องถนนอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ทุกเมื่อ การมีอุปกรณ์เครื่องมือขั้นพื้นฐานติดเอาไว้ ผู้ขับขี่หรือผู้ร่วมเดินทางจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเบื้องต้นก่อนได้ด้วยตัวเอง

9. ระบบปรับอากาศในห้องโดยสาร

จุดเช็ครถก่อนเดินทางไกลสุดท้ายที่จะแนะนำคือ ส่วนของห้องโดยสาร หากระบบเครื่องปรับอากาศมีปัญหาอาจส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน และอาจทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ได้รับอากาศที่เพียงพอ ถ้าพบว่าแอร์เป่าลมร้อนออกมาแทนลมเย็น, มีสารความเย็นรั่วไหล, คลัตช์แอร์ไม่ทำงาน หรือมีกลิ่นแปลกๆ ออกมาจากช่องปรับอากาศ ควร.ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบก่อนออกเดินทาง เพื่อแก้ไขทันที

สรุปเกี่ยวกับจุดที่ควรเช็ครถก่อนเดินทางไกล

อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นแล้วว่า เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง การตรวจเช็ครถก่อนออกเดินทางนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ใช่แค่เฉพาะก่อนการออกเดินทางไกล แต่หากจะให้ดีก็ควรเช็ครถทุกครั้งก่อนนำเอารถไปใช้บนท้องถนน และหากมีการใช้รถทุกวัน หรือมีการใช้รถเพื่อเดินทางไกลบ่อยๆ ควรหมั่นนำรถให้ช่างช่วยตรวจเช็คสภาพอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็สามารถลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดปกติของรถยนต์ได้แล้ว 

สำหรับใครที่อยากเช็ครถก่อนออกเดินทาง สามารถเรียก EZY FIT ให้เข้าไปบริการถึงหน้าบ้านแบบ Mobile Onsite Service ได้เลย ทั้งบริการเปลี่ยนยาง เปลี่ยนโช้คอัพ เปลี่ยนแบตรถยนต์ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนผ้าเบรค พร้อมตรวจเช็คสภาพรถ 25 รายการฟรี โดยช่างมืออาชีพ เพียงใช้บริการเปลี่ยนยางนอกสถานที่ สะดวกสบายไม่ต้องเดินทางมาหาเรา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 090-956-5566