รวมสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนซื้อรถคันแรก


 

การมีรถยนต์สักคันไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน นับเป็นสิ่งที่สามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน การเดินทางไปทำธุระสำคัญ รวมไปถึงการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นกิจกรรมในการใช้ชีวิตที่สำคัญสำหรับทุกๆ คน 

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การซื้อรถคันแรกนั้นมีหลายสิ่งที่คุณต้องคำนึงและทำความเข้าใจ เพราะการมีรถยนต์สักคันนั่นหมายถึงการมีภาระที่เพิ่มขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ EZY FIT ศูนย์บริการดูแลรถยนต์ถึงบ้าน จะมาอธิบายให้คุณได้เข้าใจว่าก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถยนต์คันแรกต้องเตรียมตัวอย่างไร และต้องรับมือกับอะไรบ้างหลังจากมีรถยนต์ใช้แล้ว

 

 9 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อรถคันแรก

การซื้อรถคันแรกมีหลากหลายประเด็นที่คุณต้องคำนึง โดย EZY FIT ได้ทำการสรุปเป็นหัวข้อสำคัญเอาไว้ทั้งหมด 9 ประเด็นด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

 9 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อรถคันแรก

1. ประเภทของรถยนต์ที่ต้องการ

ในท้องตลาดรถยนต์ของประเทศไทยนั้นมีตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันอยู่มากมาย และรถยนต์แต่ละประเภทก็มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง 4 ประตูประเภท Eco Car, รถเก๋งขนาดกลาง, รถ Crossover เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับใช้ในเมืองทั่วไป รถกระบะเหมาะสำหรับสายถึกที่ต้องการความสมบุกสมบัน เป็นต้น ซึ่งปัจจัยนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่คุณต้องคิดอย่างถี่ถ้วน เพราะเมื่อคุณถอยรถคันนี้มาแล้วคุณจะต้องรับภาระในการผ่านไปอีกหลายปี ดังนั้นซื้อทั้งทีก็ควรมีประโยชน์กับคุณมากที่สุด

 

2. งบประมาณที่เหมาะสมสำหรับคุณ

เรื่องงบประมาณการซื้อรถยนต์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องวางแผนให้รัดกุมมากที่สุด เพราะรถยนต์แต่ละประเภทก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามประเภท และรุ่นของแต่ละค่ายรถยนต์ ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีในการซื้อรถคันแรกอยู่หลายวิธี บางวิธีก็สามารถออกรถได้เลยโดยไม่ต้องคำนึงถึงฐานเงินเดือน หรือจะเลือกดาวน์แล้วผ่อนต่อตามจำนวนเดือนที่กำหนดก็นับเป็นทางเลือกที่นิยมไม้แพ้กัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือกำลังในการผ่อนของคุณว่าคุณสามารถผ่อนได้นานกี่เดือน โดยที่ค่าผ่อนไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตของคุณ ซึ่งคุณจะต้องแบกรับภาระไปอีกนานกว่า 3-5 ปีเลยทีเดียว

 

3. การคำนวณค่าใช้จ่ายหลังการซื้อ

ถัดจากงบประมาณในการซื้อ ก็เรื่องของค่าใช้จ่ายในระหว่างที่คุณใช้รถยนต์คันนี้ ซึ่งไม่ได้จบแค่การผ่อนเท่านั้น ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ต้องคำนึง เช่น การทำประกันอุบัติเหตุ, การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี, ค่าเชื้อเพลิงในแต่ละเดือน (น้ำมันเชื้อเพลิง, ก๊าซ LPG, ไฟฟ้า) รวมไปถึงการดูแลรักษาและซ่อมรถยนต์ตามระยะ โดยทั้งหมดที่กล่าวไปนั้นคือรายจ่ายที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องจ่ายตลอดการใช้งานรถยนต์คันนี้ ดังนั้นควรวางแผนทางการเงินอย่างรัดกุมเพื่อให้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตน้อยที่สุด

 

 

3. การคำนวณค่าใช้จ่ายหลังการซื้อ

 

4. ซื้อรถคันแรกควรซื้อรถมือหนึ่งหรือมือสองดี

การเลือกซื้อรถยนต์มือหนึ่งป้ายแดง หรือรถยนต์มือสอง จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป เช่น รถยนต์มือหนึ่งป้ายแดงข้อดีคือทุกอย่างใหม่หมด ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งาน แต่มีราคาสูงกว่ามาก จะได้ส่วนลดมาก หรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของแต่ละค่ายรถยนต์

 

ส่วนรถยนต์มือสองข้อดีคือ มีราคาถูกกว่ารถป้ายแดงพอสมควร แต่จะมีเรื่องที่ต้องทำการบ้านก่อนซื้อให้ดีก็คือการเลือกรถยนต์ที่ยังคงมีสภาพดี อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงเครื่องยนต์ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ และที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยสูงกว่ารถยนต์ป้ายแดงสมควร ถ้าคำนวณไม่ดีรถมือสองที่จ่ายไปสุทธิอาจพอๆ กับราคารถยนต์ป้ายแดงเลยก็เป็นได้

 

5. ค่าทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

การทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ควรคำนึงถึง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสิ่งที่บังคับตามกฎหมาย แต่ก็เป็นการคุ้มครองที่ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ ค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกันไปตามประเภทของประกัน อายุรถ และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งอาจอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 30,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองที่คุณเลือก

 

6. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ต่อปี

การบำรุงรักษารถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่อปีอาจอยู่ที่ประมาณ 5,000 - 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทและอายุของรถ รวมถึงระยะทางที่ใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กสภาพและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 5,000 - 10,000 กิโลเมตร

 

7. ค่าน้ำมันรถต่อเดือน

ค่าน้ำมันเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่คุณต้องเตรียมพร้อมเมื่อมีรถยนต์ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามประเภทของรถ พฤติกรรมการขับขี่ และระยะทางที่ใช้ต่อเดือน โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าน้ำมันอาจอยู่ที่ประมาณ 3,000 - 8,000 บาทต่อเดือน สำหรับการใช้งานทั่วไปในเมือง แต่หากคุณต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ค่าใช้จ่ายนี้ก็อาจสูงขึ้นได้ การเลือกรถที่ประหยัดน้ำมัน หรือการปรับพฤติกรรมการขับขี่ให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้

 

8. ค่าภาษี และ พ.ร.บ. รถยนต์รายปี

การเสียภาษีรถยนต์และทำ พ.ร.บ. เป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคันต้องดำเนินการทุกปี ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามขนาดเครื่องยนต์และอายุของรถ โดยทั่วไปแล้ว ค่าภาษีรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 500 - 7,000 บาทต่อปี ส่วนค่า พ.ร.บ. จะอยู่ที่ประมาณ 600 - 1,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ การเตรียมเงินส่วนนี้ไว้ล่วงหน้าและชำระตรงเวลาจะช่วยหลีกเลี่ยงค่าปรับและปัญหาทางกฎหมายได้

 

9. ค่างวดรายเดือนพร้อมดอกเบี้ย

สำหรับผู้ที่เลือกซื้อรถด้วยวิธีผ่อนชำระ ค่างวดรายเดือนจะเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องคำนึงถึง ยอดผ่อนจะขึ้นอยู่กับราคารถ เงินดาวน์ ระยะเวลาผ่อน และอัตราดอกเบี้ย โดยทั่วไปแล้ว ค่างวดควรอยู่ที่ไม่เกิน 25-30% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน

 

ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อรถราคา 800,000 บาท ดาวน์ 20% (160,000 บาท) ผ่อน 60 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ค่างวดจะอยู่ที่ประมาณ 12,000 - 13,000 บาทต่อเดือน ซึ่งคุณควรมีรายได้อย่างน้อย 40,000 - 50,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้สามารถรับภาระค่างวดนี้ได้อย่างสบาย

 

 สรุปเรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อรถคันแรก

การตัดสินใจซื้อรถคันแรกเป็นก้าวสำคัญในชีวิตที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ นอกจากความสะดวกสบายที่จะได้รับ คุณต้องเตรียมพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่จะตามมา ทั้งค่างวด ค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ การวางแผนการเงินที่ดี การเลือกรถที่เหมาะกับความต้องการและกำลังซื้อ รวมถึงการศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน จะช่วยให้การเป็นเจ้าของรถคันแรกเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและคุ้มค่าในระยะยาว

 

สรุปเรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อรถคันแรก

สำหรับใครที่ยังไม่ได้ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ในปีนี้ เมื่อเปลี่ยนยางรถยนต์ครบ 4 เส้นกับ EZY FIT รับฟรี! โปรแกรมตรวจเช็กสภาพรถยนต์ 30 รายการ ครอบคลุมทุกส่วนประกอบของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ตัวยางรถยนต์ ระบบของเหลว ระบบเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง ระบบเบรก ระบบปรับอากาศ และระบบไฟฟ้า พร้อมดูแลถึงที่บ้านโดยช่างซ่อมรถยนต์ชำนาญการ มั่นใจด้วยประสิทธิภาพการบริการและเครื่องมือที่ทันสมัยระดับสากล วางใจ EZY FIT สอบถามโทร. 090-956-5566 ได้เลย เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างดีที่สุด!