รถหม้อน้ำแห้ง อันตรายแค่ไหน ควรรับมืออย่างไรเมื่อเกิดเหตุ


สาเหตุของอาการหม้อน้ำแห้งในรถยนต์

สาเหตุที่ทำให้รถยนต์เกิดหม้อน้ำแห้งมีอยู่หลายสาเหตุ วันนี้เราได้รวบรวม 5 สาเหตุหลัก ๆ มาให้คุณ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1.หม้อน้ำรั่ว

เมื่อใช้รถยนต์มาได้สักระยะหนึ่ง หม้อน้ำของรถคุณอาจจะเกิดการสึกกร่อน ทำให้เกิดการรั่วซึมได้ หรืออาจเกิดจากมีวัตถุอื่นมากระแทกจนทำให้หม้อน้ำรั่วได้ 

วิธีดูว่าหม้อน้ำรถยนต์ว่ารั่วหรือไม่: อย่างแรกให้สังเกตหม้อน้ำว่ามีคราบน้ำยาหล่อเย็นไหลออกมาหรือไม่ หรือสังเกตใต้พื้นรถว่ามีน้ำหยดให้เห็นหรือไม่ อีกวิธีหนึ่งคือ ให้คุณลองเติมน้ำหล่อเย็นหรือที่เข้าใจกันว่า ‘คูลแลนต์’ ลงในหม้อน้ำขณะที่เครื่องยนต์เย็นแล้ว จากนั้นก็ให้ทิ้งรถไว้ข้ามคืน ค่อยมาสังเกตอีกทีวันถัดไปว่าน้ำที่เติมไปลดลงหรือไม่ หากลดลง ให้รีบเปลี่ยนหม้อน้ำทันที 

2.หม้อพักน้ำหล่อเย็นชำรุด

อีกสาเหตุที่ทำให้รถหม้อน้ำแห้งอาจเกิดจากหม้อพักน้ำชำรุด เพราะหม้อพักน้ำส่วนใหญ่ทำจากพลาสติก เมื่อโดนความร้อนนาน ๆ อาจจะทำให้แห้งกรอบ เสื่อมสภาพได้ 

วิธีดูว่าหม้อพักน้ำหล่อเย็นชำรุดหรือไม่: ใช้น้ำยาหล่อเย็นเทลงในหม้อพักน้ำ แล้วสังเกตรอยรั่ว รอยแตก หรือจุดที่มีน้ำซึมออกมา ทั้งนี้สีของน้ำยาหล่อเย็นมีลักษณะเรืองแสง ทำให้สังเกตได้ง่ายกว่าการเติมน้ำธรรมดา

3.ท่อยางทางเดินน้ำฉีกขาด

ท่อยางทางเดินน้ำเป็นส่วนที่ต้องเจอกับความร้อนอยู่เสมอ เมื่อผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน อาจเสื่อมสภาพ แตก แห้งกรอบ หรือเกิดการฉีกขาดจนเกิดการรั่วซึมได้  

วิธีดูว่าท่อยางทางเดินน้ำฉีกขาดหรือไม่: สังเกตท่อยางว่ามีรอยคราบน้ำหรือไม่ 

4.ปมน้ำรถยนต์รั่วพัง

อาการปั๊มน้ำรถยนต์รั่วพัง มักจะพบเจอกับรถที่ผ่านการใช้งานมานานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปั๊มน้ำมีหน้าที่หมุนเวียนน้ำจากเครื่องยนต์ไปยังหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อน หากปั๊มน้ำรั่วพัง ก็ส่งผลต่อน้ำในหม้อน้ำรั่วซึมได้เช่นกัน 

วิธีดูว่าปมน้ำรถยนต์รั่วพังหรือไม่: ให้คุณสังเกตคราบน้ำรอยรั่วใต้ท้องรถและบริเวณปั๊มน้ำ ส่วนใหญ่รอยรั่วจะอยู่บริเวณซีลแกนปั๊มน้ำและช่องระบายอากาศ 

5.ฝาปิดหม้อน้ำชำรุด

สาเหตุสุดท้ายที่ทำให้เกิดหม้อน้ำแห้งคือ ฝาปิดหม้อน้ำชำรุด เพราะเมื่อฝาปิดหม้อน้ำถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน ยางที่อยู่ใต้ฝาอาจเกิดเสื่อมสภาพ ฉีกขาด ชำรุด ไม่สามารถรับแรงดันน้ำจากในหม้อน้ำได้ ทำให้น้ำรั่วซึมออกมาในที่สุด 

วิธีดูว่าฝาปิดหม้อน้ำชำรุดหรือไม่: ตรวจเช็กสภาพยางของฝาปิดหม้อน้ำ ไม่ให้ยวบจนเกินไป 

6 ขั้นตอนรับมือเมื่อเกิดเหตุหม้อน้ำแห้งระหว่างขับขี่

ถ้าหากคุณกำลังขับรถอยู่บนถนนแล้วสังเกตได้ถึงความผิดปกติของหม้อน้ำ ให้ตั้งสติและรับมือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทันที ซึ่งขั้นตอนการรับมือมี 6 ข้อดังนี้  

1.เปิดไฟฉุกเฉินเข้าจอดข้างทาง

หากขับรถแล้วพบความผิดปกติ ความร้อนรถยนต์ขึ้น ให้เปิดไฟฉุกเฉินแล้วหาที่จอดรถในพื้นที่ปลอดภัยทันที จากนั้นเปิดฝากระโปรงระบายความร้อน หากพบควันหรือไอน้ำพุ่งออกมาจากกระโปรงรถ แนะนำว่าอย่าเพิ่งเปิดฝาประโปรงรถก่อน เพราะความร้อนอาจทำให้คุณเกิดอันตรายได้

2.เปิดฝากระโปรงระบายความร้อน

หลังจากที่ไอน้ำหายไปแล้ว ให้คุณเปิดฝากระโปรงรถระบายความร้อนทิ้งไว้สัก 15-20 นาที แต่ไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำทันที เพราะไอน้ำร้อนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

3.เปิดฝาหม้อน้ำเมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์เย็นลง

เมื่อรออุณหภูมิเครื่องยนต์เย็นลงเป็นที่เรียบร้อย ให้ใช้ผ้าหนา ๆ ที่สามารถกันความร้อนหุ้มบริเวณฝาหม้อน้ำแล้วค่อย ๆ เปิดฝาออก ป้องกันอันตรายจากไอน้ำร้อนที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่

4.เติมน้ำหล่อเย็น หรือน้ำสะอาด

เมื่อเปิดฝาหม้อน้ำแล้ว ให้สังเกตดูว่าน้ำในหม้อน้ำเหลือน้อยหรือไม่ ถ้าเหลือน้อยให้เริ่มเติมน้ำหล่อเย็นหรือน้ำสะอาดลงไปทีละนิด เว้นช่วงประมาณ 3 นาทีแล้วค่อยเติมอีกครั้ง เพราะถ้าเติมทีเดียวทันทีที่เครื่องดับ อาจทำให้ฝาสูบโก่งหรือแตกได้

ทั้งนี้ การเติมน้ำในขณะที่เครื่องยังร้อนจัดอยู่อาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเกิดความเสียหาย จึงควรรอให้เครื่องยนต์เย็นลงประมาณ 30 นาทีก่อน

5.ปิดฝาหม้อน้ำ ลองสตาร์ตเครื่องยนต์

เมื่อเติมน้ำหล่อเย็นเป็นที่เรียบร้อย ให้ปิดฝาหม้อน้ำแล้วลองสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อให้น้ำหล่อเย็นไหลกลับไปหมุนเวียนในระบบ 

6.เช็กดูอาการรั่วอีกครั้ง 

ตรวจสอบอาการรั่วอีกครั้ง และหากพบว่ายังมีการรั่วไหล หรืออุณหภูมิยังคงผิดปกติ ให้รีบติดต่อศูนย์บริการทันที

แนวทางการป้องกันหม้อน้ำแห้ง

หม้อน้ำแห้งหรือชำรุด ทำให้เกิดอันตรายหลายระดับ ทั้งทำให้เครื่องยนต์พัง ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการซ่อมแซม ไปจนถึงอันตรายต่อชีวิตของผู้ขับขี่และผู้ร่วมใช้ถนน ฉะนั้น ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบสภาพหม้อน้ำ เพื่อลดความผิดปกติ ความเสียหาย และอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

หากคุณกำลังมองหาช่างมืออาชีพที่สามารถตรวจเช็กและซ่อมบำรุงรักษาระบบช่วงล่างของรถคุณอยู่ EZY FIT พร้อมให้บริการถึงบ้านคุณแบบ ON-SITE SERVICES ด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐานเดียวกับศูนย์บริการ มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับบริการในราคาสมเหตุสมผล รวมถึงขับขี่อย่างอุ่นใจหลังจากได้รับการตรวจเช็กกับเรา สอบถามโทร. 090-956-5566