หลายปีมานี้ ภาคเหนือได้กลายเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวและนักเดินทางทั่วประเทศ เนื่องด้วยอากาศที่เย็นสบาย มีวิวภูเขาสวยๆ ทำให้หลายคนอยากที่จะขับรถขึ้นเขาเพื่อสัมผัสบรรยากาศและไอเย็นในช่วงสิ้นปี นอกจากการเตรียมตัวก่อนออกเดินทางอย่างการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เบื้องต้น การเปลี่ยนถ่ายของเหลว การเปลี่ยนยาง และอื่นๆ การรู้วิธีขับรถขึ้นเขาลงเขาก็สำคัญไม่แพ้กัน วันนี้เรามีวิธีขับแบบปลอดภัยมาฝากกัน
การขับรถเกียร์ออโต้ในชีวิตประจำวันทั่วไปส่วนใหญ่จะใช้เพียงแค่เกียร์ D ในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพราะเป็นการส่งกำลังในระดับพื้นฐานควบคุมด้วยการเหยียบคันเร่งเท่านั้น แต่ในการขับรถขึ้นเขานั้นจะต้องใช้เกียร์อื่น ๆ เข้ามาช่วย เช่น เกียร์ D-3 เกียร์ D-2 และเกียร์ L (หรือบางรุ่นเป็นเกียร์ 3, 2 และ 1) โดยมีวิธีการควบคุมดังนี้
รถเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์กระปุก เป็นเกียร์ที่มีวิธีใช้งานซับซ้อนกว่าเกียร์ออโต้ เพราะต้องคอยเลี้ยงคลัตช์เพื่อรักษารอบเครื่องให้สมดุล สำหรับการขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ธรรมดานั้น หลักสำคัญคือจะต้องใช้เกียร์ต่ำเพื่อช่วยให้เครื่องส่งกำลังได้ดี โดยเทคนิคในการควบคุมรถมีดังนี้
หลังจากที่ได้ทราบเทคนิคการขับรถขึ้นเขา-ลงเขาด้วยเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดาไปแล้ว ก็จะสังเกตได้ว่ามีหลายสิ่งที่ใช้เทคนิคเหมือนกัน ต่างกันแค่การควบคุมการส่งกำลังของเกียร์ของทั้งคู่ที่มีการทำงานแตกต่างกัน โดยวิธีการขับรถขึ้นเขาและลงเขาให้ปลอดภัย มีดังนี้
การขับรถขึ้นเขาต้องใช้เกียร์ต่ำเป็นหลัก ถ้ารู้สึกว่าทางที่ขับอยู่ไม่ได้ลาดชันมาก และเกียร์ D ยังไหวอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ แต่หากรถไม่มีกำลัง ควรลดลงมาเป็นเกียร์ D1 D2 2 และ L ขึ้นอยู่กับรุ่นรถแต่ละชนิดที่มีระบบเกียร์ที่ให้มาไม่เหมือนกัน
การรักษารอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสมจะช่วยไม่ให้เครื่องยนต์เกิดอาการโอเวอร์ฮีท (รถมีความร้อนเกินกว่าระดับปกติ) ส่วนรอบเครื่องยนต์ที่ใช้ ควรอยู่ระหว่าง 2,500-3,500 รอบ และไม่ควรเกิน 4,500 รอบ
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น ในกรณีที่รถเกิดดับกลางทางหรือเครื่องยนต์มีปัญหา ควรเว้นระยะจากคันหน้าสัก 30-50 เมตร หรือสองช่วงคันรถจะช่วยให้เราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
โดยปกติแล้ว เส้นทางขับขี่ทางภาคเหนือมักจะเป็นแนวสันเขาที่มีเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยว ในบางครั้งอาจต้องเจอโค้งหักศอก หรือมีต้นไม้บังสายตาระหว่างขับขี่ จึงควรบีบแตรส่งสัญญาณก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมถนน
หลายครั้งเรามักจะเห็นตัวอักษร L D1 D2 D3 บนตำแหน่งเกียร์ที่ใช้งาน แต่ไม่รู้ว่าต้องใช้งานแบบไหนถึงจะเหมาะกับทางลาดชันแต่ละประเภท โดยปกติแล้ว ควรสังเกตที่ตัวรถขณะขับเป็นหลัก ว่ามีพละกำลังเพียงพอหรือไม่ จึงค่อยเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสม
รถยนต์ที่ออกขายในประเทศล้วนมีสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานในประเทศไทยกันอยู่แล้ว เพียงแต่เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังไม่สูง อาจจะต้องค่อยๆ ขับไปแบบไม่รีบ และควรระมัดระวังในการแซงเท่านั้นเอง แต่ยังไงก็ไปไหวแน่นอน
นอกจากทริคต่างๆ ที่ได้เรียนรู้ก่อนออกเดินทางกันแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น ก็คือยางรถยนต์ควรใช้ยางที่มีคุณภาพ จะช่วยให้การขับขี่นั้นสนุกและปลอดภัยมากขึ้น หากใครกำลังมองหายางรถยนต์คุณภาพดี พร้อมโปรโมชั่นโดนๆ EZY FIT มีให้เลือกเพียบ พร้อมบริการเปลี่ยนยางถึงหน้าบ้าน ฟรีค่าบริการ เปลี่ยนยาง ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เติมลมไนโตรเจน สนใจโทร. 090-956-5566