แน่นอนว่าการมีรถขับนั้นเป็นเรื่องที่ดีและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการเดินทางไปไหนมาไหนได้มาก อย่างไรก็ตามการใช้งานรถก็จำเป็นที่จะต้องหมั่นสังเกตและตรวจเช็กสภาพรถอยู่ตลอด เพื่อให้รถยังอยู่ในสภาพที่ดี พร้อมใช้งาน และช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการเช็กเรื่องตั้งศูนย์ถ่วงล้อด้วย เพราะหากตั้งศูนย์ถ่วงไม่ดีอาจจะทำให้เกิดอาการรถเสียศูนย์ได้ สิ่งนี้จะนำมาซึ่งอันตรายมากกว่าที่คิดเลยทีเดียว แล้วอาการแบบไหนที่บ่งบอกได้ว่ารถเสียศูนย์ ในบทความนี้จะมาแนะนำกัน
อาการรถเสียศูนย์เป็นอาการผิดปกติที่สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความดันลมยางรถผิดปกติ ระบบช่วงล่างเสื่อมสภาพจากการบรรทุกสิ่งของในปริมาณน้ำหนักที่มากเกินไป หรืออาจเกิดจากการที่รถเคยประสบอุบัติเหตุอย่างหนัก ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนโครงสร้างบางส่วนของรถใหม่ รวมถึงการที่แป้นเกลียวหรือว่าสลักเกลียวยึดล้อหลวมไป หรือการตั้งแนวศูนย์ล้อที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นนี้ด้วยเช่นกัน
เมื่อทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหารถเสียศูนย์แล้ว ในส่วนต่อมาก็อยากจะให้ได้ทำความเข้าใจกันให้มากขึ้นถึงเรื่องของอาการรถเสียศูนย์ โดยอาการที่สามารถบ่งบอกได้ก็มีอยู่หลายอาการให้ได้สังเกตกัน ดังต่อไปนี้
อาการแรกที่เห็นชัดหากรถเกิดปัญหาเสียศูนย์ คือ การที่รถเสียการทรงตัว หรือการทรงตัวของรถผิดปกติไป โดยอาการนี้สามารถสังเกตได้ในขณะที่ขับรถทางตรง หากในขณะที่ขับขี่รถมีอาการเบนไปทางซ้ายหรือขวา รู้สึกเสียการทรงตัวมากกว่าปกติ ซึ่งผู้ขับจำเป็นจะต้องประคับประคองพวงมาลัยอยู่ตลอด นั่นก็หมายถึงว่าศูนย์ถ่วงของรถมีอาการผิดปกติไปจากเดิมแล้ว ให้เร่งแก้ไขทันทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ
รัศมีวงเลี้ยวไม่เท่ากัน เป็นอาการที่ช่วยบ่งบอกปัญหานี้ได้เช่นกัน โดยหากในขณะที่ขับขี่รู้สึกว่าการบังคับพวงมาลัยให้เลี้ยวซ้ายหรือขวานั้นมีปัญหา เช่น การเลี้ยวในรัศมีวงที่แคบหรือว่ากว้างกว่าอีกฝั่ง ก็หมายถึงว่ารถเริ่มเข้าสู่ภาวะของการเสียศูนย์แล้วนั่นเอง
อาการต่อมาที่บ่งบอกถึงปัญหารถเสียศูนย์คือ การที่รถกินน้ำมันมากขึ้น โดยปกติแล้วรถแต่ละคันจะมีอัตราใช้น้ำมันที่ค่อนข้างตายตัว แต่หากเกิดความผิดปกติกับรถขึ้นก็ส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้นได้ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงสาเหตุจากการที่รถมีอาการเสียศูนย์ก็เป็นได้
อีกหนึ่งอาการที่บ่งบอกได้ว่าศูนย์ถ่วงของรถมีปัญหาคือ การที่ยางสึกเร็วกว่าปกติ โดยอาการนี้สามารถสังเกตได้จากยางรถยนต์ว่าบริเวณยางสึกเร็วกว่าเดิมหรือไม่ โดยเฉพาะกับยางที่อายุการใช้งานไม่นานและยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยน หรือปกติไม่ได้ใช้รถแบบสมบุกสมบันขนาดนั้น หากเช็กแล้วยางสึกก่อนเวลาอันควรก็แสดงว่าอาจจะเกิดจากปัญหาศูนย์ถ่วงไม่สมดุล ซึ่งเป็นอันตรายมาก ๆ
อาการรถเสียศูนย์เป็นอาการที่น่ากังวล และหากว่าเกิดขึ้นก็ควรได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากว่าอาจจะทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ โดยหากพบปัญหานี้หรือพบอาการตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ก็แนะนำว่าให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบเพื่อทำการถ่วงล้อให้สมดุลเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุด ซึ่งไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ เพราะนอกจากจะไม่ดีต่อสภาพรถแล้วยังทำให้อาจเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่เองได้ด้วย ทั้งนี้ก็ควรหมั่นตรวจเช็กรถในส่วนต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานและช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย
นอกจากที่จะต้องหาทางแก้ปัญหาอาการรถเสียศูนย์แล้ว การดูแลรถให้ดีและไม่ให้เกิดปัญหา หรือเกิดน้อยที่สุดก็เป็นทางที่ดีกว่า โดยไม่เพียงแค่จะต้องตั้งศูนย์ถ่วงกับช่างที่ชำนาญเท่านั้น แต่ควรจะระมัดระวังการใช้รถในหลาย ๆ เรื่องด้วย เช่น เรื่องของสัมภาระที่ไม่ควรใส่ท้ายรถมากเกินความจำเป็น เพราะรถอาจจะต้องบรรทุกสิ่งของในปริมาณที่หนักเกินไป อาจส่งผลต่อเรื่องศูนย์ถ่วงล้อได้
อีกทั้งในเรื่องของลมยางรถก็ควรที่จะรักษาแรงดันลมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเสมอ โดยวิธีนี้จะช่วยให้รถสามารถทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การทรงตัวของรถดี และป้องกันศูนย์ถ่วงให้ไม่เสื่อมสภาพง่ายด้วย รวมถึงการขับรถช้าลง ขับในความเร็วที่เหมาะสม จะเป็นสิ่งที่ช่วยลดการทำงานหนักให้กับส่วนประกอบในการเลี้ยวและระบบกันสะเทือนของรถ ซึ่งสิ่งนี้เองนับว่าเป็นกุญแจสำคัญของการป้องกันปัญหารถเสียศูนย์เลยนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสาเหตุและอาการที่ช่วยบ่งบอกให้ทราบได้ว่าอาการรถเสียศูนย์นั้นเป็นอย่างไร และหากเกิดปัญหาสามารถแก้ไขแบบไหน รวมถึงวิธีการป้องกันที่ควรทำ เพื่อไม่ให้ศูนย์ถ่วงล้อรถเสื่อมสภาพไว อย่างไรก็ตามอย่างที่ได้บอกไปว่าการนำรถไปตรวจเช็กสภาพรถบ่อย ๆ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำมาก ๆ เพื่อที่จะช่วยดูแลประสิทธิภาพของรถให้ยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่เสมอ ซึ่งที่ EZY FIT ก็มีบริการดูแลรถในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงบริการตั้งศูนย์ถ่วงล้อด้วยนั่นเอง ใครที่มองหาบริการดูแลรถนอกสถานที่ ติดต่ออีซี่ ฟิต ได้ที่ โทร. 090-956-5566 หรือ Line @EZYFIT
บริษัท อีซี่ ฟิต (ประเทศไทย) จำกัด (EZY FIT)
เลขที่ 76/17 ห้องเลขที่ B หมู่ที่ 4 ถนนเทพารักษ์
ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี
จังหวัดสมุทรปราการ 10540
090-956-5566
Call Center:
090-956-5566
