ปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็กจากผู้ผลิตค่ายญี่ปุ่น หันมาใช้เกียร์ CVT กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ หรือผู้ที่กำลังมีความต้องการในการซื้อรถยนต์ ที่กำลังหาข้อมูลของรถยนต์แต่ละรุ่น เกิดความสงสัยว่าเกียร์ในรูปแบบนี้แตกต่างไปจากเกียร์ออโต้แบบเดิมที่ค่ายรถยนต์เลือกใช้อย่างไรบ้าง เพื่อไขคำตอบในเรื่องนี้ EZY FIT ได้รวบรวมข้อมูลนำมาฝากผ่านทางบทความนี้
เพื่อให้คุณผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลที่เรานำเอามาฝากกันในวันนี้ง่ายขึ้น มาดูกันก่อนว่าเกียร์ออโต้ทั้งหมดนั้นมีอะไรบ้าง และเกียร์ออโต้แต่ละแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลนำเอาไปเปรียบเทียบกับเกียร์ CVT ที่รถยนต์ในยุคนี้มักเลือกใช้กัน
เกียร์ AT หรือ เกียร์ระบบออโต้แบบเดิม เป็นระบบที่ใช้คอนเวอร์เตอร์และน้ำมันในการส่งถ่าย ซึ่งเกียร์ระบบนี้จะมีการนำเอากำลังจากเครื่องยนต์มาใช้มากกว่าระบบเกียร์ธรรมดา สำหรับใครที่เป็นสายนิยมความเร็วแรง เกียร์ระบบนี้อาจไม่เหมาะสักเท่าไหร่นัก
ระบบเกียร์ CVT หรือ Continuously Variable Transmission เป็นระบบเกียร์ที่จะมีการเปลี่ยนอัตราทดแบบต่อเนื่อง โดยเกียร์ประเภทนี้จะเป็นเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ออโต้ประเภทหนึ่ง ที่มีข้อดีตรงที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลมากขึ้น เครื่องไม่กระตุก เนื่องจากระบบของเกียร์มีการทำงานไล่เกียร์ไปเรื่อย ๆ ตามรอบอัตราการเร่งของรถยนต์
และสุดท้ายกับเกียร์ DCT หรือเกียร์คลัตช์คู่ ที่จะมีลักษณะการทำงานที่ค่อนข้างคล้ายกับเกียร์ธรรมดา 2 ชุด รวมในเกียร์ลูกเดียวกัน มีกลไกคลัตช์ 2 ชุด เพื่อใช้ควบคุมการทำงานของเกียร์แต่ละตำแหน่ง เป็นเกียร์ที่ส่วนมากแล้วจะพบได้ในรถยนต์ราคาแพง รถยนต์ที่ใช้เกียร์ระบบนี้จะมีอัตราการเร่งเทียบเท่า หรือมีอัตราการเร่งที่ดีกว่าเกียร์ธรรมดา ยกตัวอย่างเช่น เกียร์ PDK ที่พบได้ในรถ Porsche
สำหรับเกียร์ CVT จะเป็นเกียร์ที่ไม่มีชุดเฟืองในแต่ละเกียร์ แต่เป็นระบบเกียร์ที่สามารถปรับอัตราทดได้ด้วยการเปลี่ยนขนาดของพูลเล่ย์เพื่อให้ได้แรงบิดที่เหมาะสมในการออกตัว ซึ่งในส่วนของเกียร์ออโต้ช่วงเวลาเข้าเกียร์ ภายในเกียร์จะทำการเปลี่ยนและเลื่อนการขบกันของเฟือง ไปยังชุดเกียร์ต่าง ๆ ทำให้รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนอัตราทดในเกียร์ได้อย่างชัดเจน
สำหรับปัญหาที่มักจะเกิดกับเกียร์ CVT คือผู้ใช้งานรถยนต์อาจพบกับการสูญเสียความเร่งอย่างกะทันหัน หรืออาจพบกับปัญหาระบบเกียร์มีความร้อนสูง รวมถึงเสียงดังในระหว่างการเร่งความเร็ว
โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของน้ำมันเกียร์ จะอยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 กิโลเมตร ซึ่งเราจะนับเป็นระยะทางมากกว่าระยะปี เนื่องจากหากนับเป็นอายุปีผู้ใช้รถแต่ละคน อาจมีปริมาณการใช้รถที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการอิงจากระยะทางจะเป็นวิธีที่แนะนำมากกว่า
สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบเกียร์มาก่อน หากต้องการป้องกันการเข้าใจผิดในการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากการเช็กที่คู่มือของรถยนต์ หรือเช็กที่ก้านวัดน้ำมันเกียร์ที่มีการสลักเบอร์น้ำมันเกียร์เอาไว้ จะทำให้สามารถทราบได้ว่ารถยนต์คนนั้น ๆ เป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์อะไร
หากคุณผู้อ่านได้เดินทางมาถึงบทสรุปส่งท้ายของบทความนี้ คงจะพอเข้าใจได้ว่าเกียร์ CVT เป็นระบบเกียร์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เช่นเดียวกันกับระบบเกียร์อื่น ๆ ดังนั้นการเลือกระบบเกียร์ที่ดีที่สุด ควรเลือกจากไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตัวผู้ใช้งาน
สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรถยนต์แบบคนสมัยใหม่ สามารถเรียกให้ช่างจาก EZY FIT เข้าไป บริการได้ถึงที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็ บริการเปลี่ยน ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนแบตรถยนต์ ตลอดจนการตรวจเช็กและซ่อมบำรุงรักษาระบบช่วงล่าง รับรองว่าครบจบในที่เดียว! สอบถามโทร. 090-956-5566 หรือ line @EZYFIT